วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เกษตรครอบครัวลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตกำไรสูง

โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ 
ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร
เครือเจริญโภคภัณฑ์ 

 สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ตามราคาน้ำมันและความต้องการสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ลดลงอันเป็นผลกระทบมาจากเศรษฐกิจโลก เป็นแรงกดดันให้รายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยลดลง เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าเกษตรเป็นหลัก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ


ปัจจุบันหากมองไปที่ประเทศพัฒนาแล้วที่ส่วนใหญ่เป็นประเทศอุตสาหกรรม แท้จริงในประวัติศาสตร์มีวิวัฒนาการหรือมีการพัฒนามาจากเกษตรกรรม เมื่อมีการนำเทคโนโลยีเครื่องมือเครื่องจักรมาใช้ทำให้ภาคเกษตรมีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้น ซึ่งจะไปหนุนให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการเติบโต

ในขณะเดียวกันประเทศที่พัฒนาแล้วยังมีการสนับสนุนด้านราคาสินค้าเกษตรเพื่อยกระดับรายได้ของภาคเกษตรให้สูงขึ้นทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงเทียบเท่ากับคนทำงานในเมือง ต่างจากเกษตรกรไทยที่มีแต่หนี้สินเพราะภาครัฐไม่เคยให้ความสำคัญว่าเกษตรกรควรมีรายได้ขั้นต่ำเป็นเท่าไหร่

 ความเสี่ยง 3 ประการที่ทำให้เกษตรกรไทยมีความเสี่ยงสูงมากที่สุด คือ

1.เสี่ยงกับเงินที่ลงทุน โดยไม่รู้อนาคตว่าจะได้ทุนคืนหรือไม่

2.เสี่ยงกับภัยธรรมชาติ เพราะภาคเกษตรไทยยังคงพึ่งธรรมชาติดินฟ้าอาการในการทำเกษตรกรรม

3.เสี่ยงกับราคาสินค้าเกษตรที่ไม่แน่นอน แม้ว่าจะได้ผลผลิตดีแต่ถ้าราคาต่ำเกษตรกรก็จะขาดทุนมีหนี้สินเพิ่มขึ้น เกษตรกรไทยจึงมีความเสี่ยงสูงแต่กำไรน้อยซึ่งผิดธรรมชาติที่ว่าในเมื่อมีความเสี่ยงสูงจะต้องได้กำไรสูงด้วย

หากสามารถทำให้เกษตรกรขายสินค้าเกษตรในราคาที่สูงเกษตรกรก็จะมีรายได้ดีขึ้นและมีกำลังใจที่จะพัฒนาเพิ่มผลผลิตนำเทคโนโลยีมาใช้ ธนาคารกล้าปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกร ทำให้ภาคเกษตรกรรมเกิดการพัฒนาขึ้น

 สินค้าเกษตรสำคัญ อาทิข้าว ข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง และปาล์ม ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทั่วโลกต้องการทั้งนี้เพื่อความมั่นคงด้านอาหาร และความต้องการพืชพลังงาน ซึ่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในด้านนี้ต่อประชาคมโลก


ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ไทยควรใช้โอกาสนี้พัฒนาภาคเกษตรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภาคเกษตรไทยควรพัฒนาไปสู่เกษตรสมัยใหม่ด้วยการเติม 3 ปัจจัยหลักที่เกษตรกรขาดคือ 1.ทุน 2.เทคโนโลยี และ3.ตลาด

เนื่องจาก 3 ปัจจัยดังกล่าวล้วนมีผลต่อการพัฒนาภาคการเกษตรไทยสู่เกษตรสมัยใหม่ ภาครัฐจึงต้องมีบทบาทสำคัญในสนับสนุนเงินทุนผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร เพิ่มการลงทุนวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเกษตร และพัฒนาขั้นตอนการตลาดแบบครบวงจรตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา การแปรรูป การขนส่ง และหาตลาดรองรับสินค้า มีการจัดพื้นที่เพราะปลูกที่เหมาะสม มีระบบชลประทานที่ดี

เกษตรสมัยใหม่อีกแนวทางหนึ่งคือ การส่งเสริมให้เอกชนเข้ามารับความเสี่ยงแทนเกษตรกรด้วยการสนับสนุนการลงทุน ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาบริการจัดการ และหาตลาดรองรับสินค้าเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงและแน่นอน  เช่น การที่ซี.พี.เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรทำฟาร์มเลี้ยงไก่ด้วยการรับประกันราคารับซื้อจากเกษตรกร ยกตัวอย่างถ้าเกษตรกรเลี้ยงไก่แบบเดิมจำนวน 100 ตัว กำไรตัวละ 30 บาท ไก่ 100 ตัวได้กำไรเพียง 3,000 บาท แต่ถ้าเกษตรกรเลี้ยงด้วยระบบฟาร์ม 10,000 ตัว กำไรตัวละ 3 บาท ไก่ 10,000 ตัวก็ยังมีกำไรถึง 30,000 บาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น เป็นต้น

 แนวทางการพัฒนาภาคเกษตรให้เป็นเกษตรกรรมแบบสมัยใหม่มีด้วยกัน 4 รูปแบบคือ

1. เกษตรกรกลุ่มยากจนที่สุด เกษตรกรกลุ่มนี้จะทำการเกษตรตามมีตามเกิด เนื่องจากอยู่ห่างไกลความเจริญ การจะเข้าไปสนับสนุนให้ทุกคนทำเกษตร อาทิ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดคงเป็นเรื่องยาก แนวทางที่เห็นว่าสามารถทำได้คือให้เกษตรกรเหล่านี้รวมตัวกันเป็นบริษัทหรือสหกรณ์โดยที่ทุกคนเป็นหุ้นส่วน เอกชนทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้รับจ้างเข้าไปสร้างโรงเรือน ดูแลระบบการจัดการฟาร์ม หาตลาดรองรับสินค้า แนวทางดังกล่าวเกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของ ส่วนผลกำไรที่เกิดขึ้นแบ่งกันระหว่างเกษตรกรและเอกชน

2. เกษตรกรตามหมู่บ้าน บริษัทจะเข้าไปคัดเลือกเกษตรกรรายที่มีความสามารถแต่ไม่มีเงินทุน โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนให้ก่อน เช่น ลงทุนฟาร์มเลี้ยงสัตว์ให้ก่อน 1 โรงเรือน เพื่อให้โรงเรือนแห่งนี้เป็นเสมือนโรงเรียนสำหรับเกษตรกรในหมู่บ้านที่สนใจให้เข้ามาเรียนรู้การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ แล้วจึงพัฒนาส่งเสริมให้เกษตรกรรายนี้เป็นตัวแทนบริษัท

3. เกษตรกรที่ยึดอาชีพทำสวนผลไม้ บริษัทเห็นว่าควรเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรกลุ่มนี้ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพิ่ม เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ขณะเดียวกันมูลสัตว์ที่ได้ก็นำไปทำปุ๋ยสำหรับสวนผลไม้ ซึ่งเป็นแนวทางลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

 4. เกษตรกรกลุ่มที่มีที่ดินมีเงินทุน แต่ไม่มีกำลังจะทำ กลุ่มนี้บริษัทเห็นว่าควรให้เกษตรกรเป็นผู้ลงทุนสร้างโรงเรือน และบริษัทเข้าไปเช่าโรงเรือน ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรกลุ่มนี้

 การพัฒนาเกษตรกรรมไปสู่การทำการเกษตรแบบสมัยใหม่ดังกล่าว นอกจากจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น และเป็นการพัฒนาภาคเกษตรของประเทศในแนวทางเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว

ขอบคุณที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1235479363




 
  

" ปุ๋ยดินดี เจริญอินทรีย์ภัณฑ์ "
ปุ๋ยอินทรีย์ผสมมูลค้างคาว ธรรมชาติ100% ไร้เคมี และหัวเชื้ออินทรีย์สกัดมหัศจรรย์

ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ด ดินดีเจริญอินทรีย์ภัณฑ์
ปุ๋ยอินทรีย์ 100% ผสมมูลค้างคาว 
ค่าอินทรีย์วัตถุ OM
 สูงเกือบ 70%


ให้ธาตุอาหารครบ 13
 ชนิด ที่พืชต้องการคือ 
ไนโตรเจน(N),ฟอสฟอรัส(P),โพรแทสเซี่ยม(K),
แคลเซี่ยม(Ca),แมกนีเซี่ยม(Mg),กำมะถัน(S),
เหล็ก(Fe),สังกะสี(Zn),ทองแดง(Cu),
แมงกานีส(Mn),โบรอน(B),โมลินั่ม(Mo),คลอรีน(Cl)
ชมวิดีโอแนะนำการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ภัณฑ์จากเกษตรกร
ตอน1 : ตอน2 : ตอน3 : ตอน4
สีด้ายมัดปากถุง
ใช้สำหรับ
แดง
ขาว
เหลือง
เขียว
นาข้าว
พืชไร่ พืชสวน
พืชผักสวนครัว
ยางพารา
จำนวน 1 ถุง ราคาสมาชิก 375 บาท
ราคาปกติ 425 บาท 85 pv

จำนวน 1 ตัน ราคาสมาชิก 14,400 บาท
ราคาปกติ 15,000 บาท 3,400 pv
จำนวน 1 ถุง ราคาสมาชิก 450 บาท ราคาปกติ 500 บาท 85 pv
จำนวน 1 ตัน ราคาสมาชิก 17,300 บาท ราคาปกติ 18,000 บาท 3,400 pv

เปรียบเทียบ
ปุ๋ยเคมีทั่วไป
ปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไป
ปุ๋ยอินทรีย์ภัณฑ์ J&C
1. ราคา (บาทต่อลูก)
2. ราคาต่อตัน
3. วัตถุดิบ
4. ธาตุอาหารหลัก
5. ธาตุอาหารรอง
6. ธาตุอาหารเสริม
7. ผลกระทบ
8. จำนวนการใช้
900 - 1,400
18,000 - 28,000
สารเติมเต็ม(Filler)
N,P,K (สารเคมี) 

-
-
ดินเสียเป็นกรด
50 kg/ลูก/ไร่
300 - 1,000
3,000 - 10,000
มูลสัตว์-ซากพืช
ไม่ชัดเจน
ไม่ชัดเจน
ไม่ชัดเจน
เศษซากขยะ Filler ตกค้าง
100 kg/ลูก/ไร่
375
14,400
มูลค้างคาวแท้
N,P,K (ธรรมชาติ)
Mg,Ca,S
Fe,Mn,Zn,Cu,B,Mo,Cl
ดินดี ผลผลิตสูง ไม่มีเคมี
25
 kg/ลูก/ไร่
  
  
  
             

ปุ๋ยน้ำเจริญอินทรีย์ (CP-305/301)
ใช้ฉีดพ่นทางใบ ลำต้น ผสมดิน เพื่อให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้เร็วยิ่งขึ้น
5 ลิตร (CP-305) สมาชิก 1,950 บาท ราคาปกติ 2,250 บาท 620 pv
1 ลิตร (CP-301) สมาชิก 390 บาท ราคาปกติ 470 บาท 120 pv
  
  
* คลิ๊กดูรายละเอียด HUGE แต่ละสูตร * 

1 ลิตร ราคาสมาชิก 250 บาท ราคาปกติ 350 บาท 68 pv
5 ลิตร ราคาสมาชิก 1,250 บาท ราคาปกติ 1,750 บาท 340 pv


* คลิ๊กดูรายละเอียด จังจังไคโตซาน * 

ราคาสมาชิก 320 บาท
ราคาปกติ
 390 บาท 85 pv

!!! สินค้าใหม่ ไฮเทค มหัศจรรย์ จนคุณต้องตะลึง !!!
หัวเชื้ออินทรีย์สกัดด้วยนาโนเทคโนโลยี เข้มข้นสูงมาก ๆ ไร้สารเคมี
สินค้านำเข้าจากอิสราเอล มีจำหน่ายที่ J&C แห่งเดียวในประเทศ
นาโนผง 50 กรัม : ใช้กับผลไม้ ไม้ดอก ไม้ผลมีลูก ใช้เพียง 1 ช้อนชาเล็ก ๆ ผสมน้ำ 40-80 ลิตร
นาโนน้ำ 1 ลิตร : ใช้กับผลไม้ ไม้ดอก ไม้ผลมีลูก ใช้เพียง 10 ซีซี ผสมกับน้ำ 40-80 ลิตร
ไคโตซานนาโน 1 ลิตร : ช่วยปรับสภาพดินให้เป็นกลาง เร่งโตเร็ว ๆ ใช้เพียง 10 ซีซี ผสมกับน้ำ 40 ลิตร
หยดทิพย์ 50 ซีซี : ใช้คืนชีพพืชที่เหี่ยวเฉาใกล้ตาย ฉีดต้นข้าว พืชเมล็ดต่าง ๆ ใช้เพียง 1 หยดผสมกับน้ำ 40 ลิตร
นาโนผงอเนกประสงค์ 1 กก. : ใช้ผสมปุ๋ยธรรมดาให้เป็นปุ๋ยชั้นดีมีธาตุอาหารครบ ใช้เพียง 1 ช้อนแกงกับปุ๋ย 5-10 กก.

บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ด้านเกษตรและสำหรับสัตว์อีกมากมายกว่า 100 ตัว
สั่งปุ๋ยเม็ด 15 ตันขึ้นไปจัดส่งฟรีถึงบ้านทั่วประเทศ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น